top of page
ค้นหา

Advance Product Quality Planning (APQP) 3rd Edition และ Control Plan 1st Edition: สิ่งที่องค์กรควรรู้

  • รูปภาพนักเขียน: Ruttakorn
    Ruttakorn
  • 29 มี.ค.
  • ยาว 2 นาที

อัปเดตเมื่อ 27 ส.ค.

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2024 ทาง AIAG (Automotive Industry Action Group) ได้ประกาศใช้คู่มือ Core Tools เล่มใหม่ ซึ่งมีการแยก APQP และ Control Plan ออกจากกัน เป็น:- Advance Product Quality Planning (APQP) 3rd Edition- Control Plan 1st Editionการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีผลอย่างไรต่อองค์กร? และควรปรับตัวอย่างไร? มาดูกันครับ


Advance Product Quality Planning (APQP) 3rd Edition และ Control Plan 1st Edition: สิ่งที่องค์กรควรรู้
Advance Product Quality Planning (APQP) 3rd Edition และ Control Plan 1st Edition: สิ่งที่องค์กรควรรู้

ทำไมการเปลี่ยนแปลง APQP และ Control Plan ถึงสำคัญ?


ถึงแม้จะมีการประกาศใช้มาเกือบหนึ่งปี แต่จากประสบการณ์การ Audit ของผมยังพบว่า หลายองค์กรยังไม่เข้าใจการเปลี่ยนแปลง และยังไม่ได้ปรับระบบให้ทันสมัย ซึ่งจริง ๆ แล้ว Edition ใหม่ทั้งสองเล่มนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการยกระดับระบบคุณภาพขององค์กร


ไฮไลท์การเปลี่ยนแปลงของ APQP 3rd Edition


  • ปรับคำศัพท์และแนวคิดให้สอดคล้องกับมาตรฐานใหม่ ๆ เช่น IATF 16949, AIAG VDA FMEA, และ OEM Manuals

  • เพิ่มการตรวจสอบและการทบทวน (Reviews) ในทุก Phase ของ APQP

  • มี Checklist และตัวอย่างใน Appendix A

  • แนะนำ Gated Management พร้อมตัวอย่างใน Appendix B

  • เน้นการใช้ Lesson Learned จาก Project ในอดีต

  • รองรับกระบวนการผลิตสมัยใหม่ เช่น Automation, EVs, และการขยายความหมายของ Mobility

  • เพิ่มข้อกำหนด Safe Launch ใน Production Control Plan

  • เพิ่มรายละเอียด Output ของแต่ละ Phase

  • Appendix C มีเทคนิควิเคราะห์ เช่น OEE, DVP, FMEA, Critical Path Method (CPM)


📌 ตัวอย่างที่สำคัญ เช่น Critical Path Method (CPM) สำหรับการวางแผน และ Gated Management ที่ใช้ทบทวนความคืบหน้าของ Project


ตัวอย่างของ Critical Path Method (CPM)
ตัวอย่างของ Critical Path Method (CPM)

แนวคิดและตัวอย่างของ Gated Management
แนวคิดและตัวอย่างของ Gated Management

ไฮไลท์การเปลี่ยนแปลงของ Control Plan 1st Edition


  • ปรับคำศัพท์และแนวคิดให้ทันสมัยและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล

  • ผสาน Lesson Learned เข้าสู่ Control Plan

  • รองรับการผลิตแบบ Automation และ Mobility

  • เพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับ Safe Launch และมาตรการควบคุมในช่วง Mass Production ระยะแรก

  • มุ่งเน้นการใช้ Family และ Foundation Control Plan เพื่อสอดคล้องกับ AIAG VDA FMEA

  • กล่าวถึงการใช้งานกับระบบ MES (Manufacturing Execution System) ที่มีการควบคุมแบบ Fully Automation


ความเชื่อมโยงกับมาตรฐาน VDA 6.3

หลายข้อกำหนดใหม่ของ APQP และ Control Plan มีความใกล้เคียงกับ VDA 6.3 ดังนั้นองค์กรที่เคยทำงานตาม VDA 6.3 อยู่แล้วแทบไม่ต้องปรับอะไรมากนัก

องค์กรไหนที่มีระบบที่สอดคล้องกับ VDA 6.3 อยู่แล้ว แทบจะไม่ต้องปรับอะไรเลย จากการเปลี่ยนแปลงนี้

สิ่งที่องค์กรควรดำเนินการ


  1. เพิ่มความรู้และทักษะเกี่ยวกับ Core Tools ทั้งสองเล่มให้กับพนักงานที่เกี่ยวข้อง

  2. ศึกษา Handbook โดยตรง สามารถสั่งซื้อได้จาก https://www.aiag.org/

  3. เข้ารับการอบรมจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น SQE ของลูกค้า หรือสถาบันฝึกอบรมที่เชื่อถือได้

  4. นำไปประยุกต์ใช้จริง เพื่อให้ระบบคุณภาพขององค์กรสอดคล้องกับข้อกำหนดของลูกค้า OEM และ Tier-1


สรุป


การปรับปรุง APQP 3rd Edition และ Control Plan 1st Edition ไม่ใช่แค่การอัปเดตเอกสาร แต่เป็นการยกระดับระบบการจัดการคุณภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ให้ทันสมัย และสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลก เช่น EV, Automation, และ Digital Manufacturingองค์กรที่เริ่มปรับตัวตั้งแต่ตอนนี้ จะมีความได้เปรียบในการแข่งขัน และสามารถตอบสนองความคาดหวังของ OEM และ Tier-n ได้อย่างมั่นใจ


👉 ที่ PVI Consultant (PVIC) เรามีบริการฝึกอบรมที่เน้นการปฏิบัติสำหรับหลักสูตร Advance Product Quality Planning (APQP) 3rd Edition และ Control Plan 1st Edition รวมทั้ง Automotive Standards และ Core Tools อื่นๆ ซึ่งสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับองค์กรของคุณ เพื่อให้บุคลากรได้พัฒนาความรู้ความสามารถและนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด


 
 
 

ความคิดเห็น


bottom of page