top of page
ค้นหา

VDA 6.3 คืออะไร? ต่างกับ IATF 16949 ยังไง? และทำไมลูกค้าหลายเจ้าถึงต้องการ

  • รูปภาพนักเขียน: Ruttakorn
    Ruttakorn
  • 3 วันที่ผ่านมา
  • ยาว 2 นาที

ในวงการ Automotive Supplier บ้านเรา เวลาพูดถึงระบบคุณภาพ ส่วนใหญ่ก็มักจะคุ้นชื่อ IATF 16949 กันอยู่แล้ว เพราะมันคือมาตรฐานหลักที่ใช้กันทั่วโลก แต่ช่วงหลัง ๆ มานี้ หลายบริษัทกลับเจอข้อกำหนดจากลูกค้าฝั่งยุโรป โดยเฉพาะ OEM สัญชาติเยอรมัน เช่น Volkswagen, BMW, Mercedes-Benz, Audi ที่ถามหามาตรฐานอีกตัวหนึ่งที่ชื่อว่า VDA 6.3


หลายคนเลยเกิดคำถามว่า…

  • “VDA 6.3 คืออะไร?”

  • “มันต่างกับ IATF 16949 ยังไง?”

  • “แล้วทำไมลูกค้าหลายเจ้าถึงกำหนดให้ต้องผ่าน VDA 6.3 Audit ด้วย?”


บทความนี้จะช่วยคลี่คลายข้อสงสัยเหล่านั้นครับ


ทำไมลูกค้าจึงต้องการ VDA 6.3

VDA 6.3 คืออะไร?


VDA 6.3 คือมาตรฐานการตรวจประเมินกระบวนการ (Process Audit Standard) ที่พัฒนาขึ้นโดย สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์เยอรมัน (VDA – Verband der Automobilindustrie) ซึ่งสมาชิกหลักๆ เป็นทั้งผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ทางฝั่งยุโรป


จุดประสงค์ของ VDA 6.3 คือการประเมินความเสี่ยงและความสามารถในการควบคุมกระบวนการตลอด Value Chain ตั้งแต่

  • การพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product Development)

  • การพัฒนากระบวนการผลิต (Process Development)

  • การผลิตจริงในโรงงาน (Production) รวมทั้งการควบคุมกระบวนการ (Process Control)

  • จนถึงการส่งมอบและบริการหลังการขาย (Customer Service)


VDA 6.3 มีการใช้ “Scoring System” ในการให้คะแนน (เช่น 0 - 10) และประเมินผลลัพธ์สุดท้ายเป็นเกรด (เช่น A, B, C) เพื่อสะท้อนระดับความเสี่ยงของกระบวนการนั้น ๆ ว่ามีความพร้อมแค่ไหนที่จะส่งมอบสินค้าที่ได้คุณภาพให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง


VDA 6.3 ไม่ใช่มาตรฐานเพื่อการรับรอง จึงจะไม่มีการออกใบรับรอง (Certificate) ให้กับองค์กรแต่อย่างใด แต่จะมีการออกใบรับรองคุณสมบัติให้กับผู้ตรวจประเมิน (VDA 6.3 Process Auditor Certificate) ซึ่งมีคุณสมบัติผ่านตามเกณฑ์ของ VDA-QMC โดยตรง


IATF 16949 คืออะไร?


IATF 16949 เป็นมาตรฐานระบบบริหารคุณภาพสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ (Automotive QMS) ที่ใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก พัฒนาโดย International Automotive Task Force (IATF) ซึ่ง สมาชิก หลักๆ เป็นทั้งผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ทางฝั่งอเมริกา


สิ่งที่ IATF 16949 เน้นคือ:

  • การสร้างระบบบริหารคุณภาพที่ครอบคลุมทั้งองค์กร และมีประสิทธิภาพ (Efficiency)

  • การกำหนด Process Approach และ Risk-Based Thinking

  • การบูรณาการข้อกำหนดลูกค้า (Customer Specific Requirements – CSR)

  • การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง (Continuous Improvement)

  • การมุ่งเน้นการป้องกันไม่ให้เกิดงานเสีย (Defect)

  • การลดความผันแปร (Variation) และของเสีย (Waste / Muda) ใน supply chain


IATF 16949 เป็นมาตรฐานเพื่อการรับรอง ซึ่งต้องได้รับการรับรองจาก Certification Body (CB) เมื่อผ่านการ Audit จะได้รับ Certificate ที่องค์กรสามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันคุณภาพในระดับสากล


พูดง่าย ๆ ก็คือ…

👉 IATF 16949 เป็นข้อกำหนดระบบบริหารจัดการคุณถาพ ซึ่งเน้น “ระบบคุณภาพโดยรวมขององค์กร”

👉 แต่ VDA 6.3 เป็นข้อกำหนดของการตรวจประเมินกระบวนการ ซึ่งเน้น “ความเสี่ยงและสมรรถนะของกระบวนการจริงในสายการผลิต”


VDA 6.3 ต่างจาก IATF 16949 ยังไง?


ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง IATF 16949 และ VDA 6.3
ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง IATF 16949 และ VDA 6.3

สรุปคือ IATF 16949 = ภาพรวมทั้งองค์กร ส่วน VDA 6.3 = ขุดลึกไปที่ความเสี่ยงในกระบวนการ

ทำไมลูกค้าหลายเจ้าถึงต้องการ VDA 6.3?


  • ลูกค้าฝั่งเยอรมันและยุโรป เช่น VW Group, BMW, Daimler, Audi, Porsche ระบุชัดเจนว่า Supplier ต้องผ่าน VDA 6.3 Audit

  • ลูกค้าฝั่งเยอรมันและยุโรปเชื่อมั่นว่า VDA 6.3 มีข้อกำหนดที่เข้มงวดและละเอียดมากกว่าในแต่ละกระบวนการ

  • เพราะ IATF 16949 มุ่งเน้นระบบบริหารคุณภาพในภาพใหญ่ทั้งองค์กร แต่ VDA 6.3 จะตรวจว่าการควบคุมกระบวนการจริงแข็งแรงพอไหม

  • ลดความเสี่ยงของปัญหาคุณภาพในโครงการใหม่ (New Project Launch)

  • ช่วยให้ลูกค้ามั่นใจว่า Supplier มี Process Capability ที่แท้จริง

  • สำหรับ Supplier เอง → การผ่าน VDA 6.3 คือการเพิ่ม ความน่าเชื่อถือ และสร้างโอกาสได้งานโครงการใหม่


องค์กรควรเตรียมตัวยังไงกับ VDA 6.3?


  • ศึกษาข้อกำหนด Element P1–P7 ให้เข้าใจ (ตั้งแต่ Project Management จนถึง Production)

  • ทำ Self-Audit ภายในก่อนที่ลูกค้าจะมา

  • อบรมทีมงาน / Internal Auditor ให้เข้าใจเกณฑ์การให้คะแนน

  • ผสาน VDA 6.3 เข้ากับระบบ IATF 16949 เพื่อทำงานร่วมกันอย่างลงตัว


บทสรุป


VDA 6.3 ไม่ได้มาแทนที่ IATF 16949 แต่เป็น “คู่เสริม” ที่ช่วยให้องค์กรแข็งแรงขึ้นทั้งในระดับระบบและระดับกระบวนการ

  • IATF 16949 = ใบเบิกทางเข้าสู่ Supply Chain ระดับสากล

  • VDA 6.3 = การพิสูจน์ว่ากระบวนการของคุณพร้อมจริงและลดความเสี่ยงให้ลูกค้า

ถ้าองค์กรของคุณกำลังทำงานกับ OEM ฝั่งยุโรปหรือมีแผนจะเข้าโครงการใหม่ ๆ การเตรียมตัวสำหรับ VDA 6.3 Audit จึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้


“หากองค์กรของคุณกำลังเตรียมความพร้อมสำหรับ VDA 6.3 Audit หรืออยากพัฒนาทีมงานให้เข้าใจข้อกำหนด PVIC มีหลักสูตรอบรม VDA 6.3 และบริการที่ปรึกษาดูแลระบบแบบครบวงจร สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้เลย”

 
 
 

ความคิดเห็น


bottom of page